5 สรรพคุณสับปะรดช่วยรักษาโรค

สรรพคุณสับปะรด

ใครๆก็รู้จักผลไม้ชนิดดีเพราะสรรพคุณสับปะรดมีมากมายหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น ช่วยรักษาโรคนิ่ว รักษาสุขภาพกระดูกรักษาโรคผิวหนังและช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรงอีกด้วย

สรรพคุณสับปะรดช่วยรักษาโรค

  1. สับปะรดช่วยบำรุงกระดูก ทุกคนอาจจะไม่รู้ว่าสับปะรดนั้นมีสรรพคุณช่วยบำรุงกระดูกเพราะในสับปะรดอุดมไปด้วยแร่ธาตุแมงกานีสที่จำเป็นสำหรับสุขภาพของกระดูก และยังช่วยปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระจึงช่วยชะลอกระบวนการชราและป้องกันโรคเรื้อรัง การที่ร่างกายของเรานั้นมีแร่ธาตุแมงกานีสต่ำเป็นผลไม่ค่อยดีนักเพราะจะทำให้กระดูกพรุน
  2. ทำให้แผลหายเร็ว เอนไซน์ บรอมีเลน ในสับปะรด มีคุณสมบัติช่วยลดอาการอักเสบ แผลจากการผ่าตัด และช่วยให้รอยแผลเป็นดูดีขึ้นได้ ใช้บรอมีเลนในการสลายลิ่มเลือด หรือลดการจับตัวของเกล็ดเลือด และช่วยลดการเกิดโรคที่เกิดจากการอุดตันในเส้นเลือดเช่น หลอดเลือดอุดตัน และโรคหัวใจ
  3. ช่วยรักษาโรคผิวหนัง วิตามินเอในสับปะรดช่วยให้ผิวพรรณกระจ่างใสและยังมีเอนไซม์ Papain ช่วยย่อยเซลล์ที่ตายแล้วของชั้นผิวหนังให้หลุดออกมา กำจักเซลล์ที่ตายแล้ว ป้องกันผิวจากอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวพรรณสดใสขึ้น
  4. ช่วยลดอัตราความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็ง สับปะรดอุดมด้วยเบต้าแคโรทีน วิตามินซี และใยอาหาร ช่วยบำรุงสายตา ต้านการอักเสบ เพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน และลดความเสี่ยงมะเร็ง
  5. ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง อุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินต่าง ๆ จำนวนมาก เช่น วิตามินซี ธาตุโพแทสเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุสังกะสี กรดโฟลิก วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 สามารถช่วยรักษาอาการต่าง ๆมีประโยชน์ต่อร่างกายและสุขภาพ

ปริมาณสับปะรดที่ควรทานต่อวัน

สับปะรด1 ส่วน มี 6-8 ชิ้นคำ 1 วันสามารถรับประทานได้ ปริมาณพอดี 6-8 ชิ้นคำ แนะนำให้รับประทานสับปะรดแบบสดๆ โดยไม่ผ่านกระบวนการประกอบอาหารหรือผ่านความร้อนเพื่อป้องกันการสูญเสียวิตามิน

คุณค่าทางโภชนาการของสับปะรด 165 กรัม

  • พลังงาน 82.5 แคลอรี่
  • วิตามินบี 6 0.112 มิลลิกรัม 9%
  • วิตามินซี 131% ของปริมาณวิตามินซีที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
  • แมงกานีส 76% ของปริมาณแมงกานีสที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
  • คอปเปอร์ 9% ของปริมาณคอปเปอร์ที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
  • ไทแอมิน (วิตามินบี 1) 9% ของปริมาณไทแอมีนที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
  • โฟเลต 7% ของปริมาณโฟเลตที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
  • โปรตีน 1 กรัม
  • ไขมัน 1.7 กรัม
  • คาร์โบไฮเดรต 21.6 กรัม
  • ไฟเบอร์ 2.3 กรัม
  • ธาตุเหล็ก 3% ของปริมาณธาตุเหล็กที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
  • ไรโบเฟลวิน (วิตามินบี 2) 3% ของปริมาณไรโบเฟลวินที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
  • กรดแพนโทเทนิก (วิตามินบี 5) 4% ของปริมาณกรดแพนโทเทนิกที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
  • ไนอะซิน (วิตามินบี 3) 4% ของปริมาณไนอะซินที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
  • แมกนีเซียม 5% ของปริมาณแมกนีเซียมที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
  • โพแทสเซียม 5% ของปริมาณโพแทสเซียมที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน

สับปะรดเป็นผลไม้ที่หาทานได้ง่ายมีรสชาติอร่อยแต่ละท้องถิ่นในประเทศไทยเรียกสับปะรดแตกต่างกันออกไป เช่น ภาคกลาง เรียกว่า “สับปะรด” ภาคอีสาน เรียกว่า “บักนัด, หมากนัด” ภาคเหนือ เรียกว่า “บะนัด, บะขะนัด, บ่อนัด” ภาคใต้ เรียกว่า “ย่านัด, หย่านัด, ย่านนัด, ขนุนทอง, มะลิ” อย่าลืมไปหามาทานกันนะครับ ติตามแหล่ง ความรู้รอบตัว หรืออ่านเรื่อง กล้วยช่วยลดอาการท้องอืด ได้ทางเว็บรู้เยอะดอทคอม

1 Comment

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *