5 วิธีเลือกเบาะรองนั่งทำงาน ลดปวดหลัง สำหรับคนทำงานหน้าคอม

5-วิธีเลือกเบาะรองนั่งทำงาน-ลดปวดหลัง-สำหรับคนทำงานหน้าคอม

การนั่งหน้าคอมทั้งวันอาจฟังดูเหมือนไม่เหนื่อยแต่ความจริงแล้ว “หลัง” ของคุณอาจกำลังพังไปเลื่อยๆอย่างไม่รู้ตัวอยู่ก็ได้ใครที่เริ่มมีอาการปวดหลัง ปวดเอว หรือแม้แต่ชาบริเวณสะโพก ลองสังเกตดูว่า คุณกำลังนั่งผิดท่าหรือใช้อุปกรณ์ที่ไม่รองรับสรีระหรือเปล่า? หนึ่งในวิธีช่วยง่าย ๆ แต่ได้ผลชัด คือ “การใช้เบาะรองนั่งที่เหมาะสม” วันนี้เรามี 5 เคล็ดลับเลือกเบาะรองนั่งทำงานที่จะช่วยคุณ นั่งนานได้โดยไม่ทรมานหลัง พร้อมแนะนำสินค้าที่ตอบโจทย์ มาให้แล้ว!

1. เลือกเบาะที่รองรับ “กระดูกก้นกบ” และ “สะโพก” ได้ดี

บอกตรง ๆ ว่าตอนแรกเราไม่เคยคิดว่า “เบาะรองนั่ง” มันจะมีผลอะไรขนาดนั้นหรอกครับ ก็แค่นั่งทำงานธรรมดา เก้าอี้ก็ดูดี มีพนักพิงอะไรครบจนกระทั่งวันนึงเริ่มรู้สึกว่าทำไมหลังมันเมื่อยแปลก ๆนั่งไปนาน ๆ แล้วเหมือนมีอะไรมากดทับอยู่แถว ๆก้นกบ แถมบางวันรู้สึกชา ๆ ที่ขาด้วยตอนนั้นเลยเริ่มหาข้อมูล จนเจอว่าจุดที่เรานั่งทับอยู่ตลอดทั้งวันคือ “กระดูกก้นกบ” กับ“สะโพก”และถ้าเบาะที่เราใช้อยู่ไม่รองรับตรงจุดนั้นดีพอ มันก็จะส่งผลเป็นลูกโซ่ไปถึงหลัง เอว แล้วก็เส้นประสาทสุดท้ายเลยตัดสินใจลองซื้อ เบาะรองนั่งแบบ U-Shape ที่เค้าแนะนำกันตัวที่ใช้แล้วรู้สึกว่า “เออ มันช่วยจริง”

คือ👉 เบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพ U-Shape รุ่น Memory Foam

เนื้อมันเป็นเมมโมรี่โฟมนุ่มแน่น นั่งแล้วไม่จม ไม่ยวบ ที่สำคัญคือมันมีรอยเว้าโค้งตรงกลางแบบ U ชัดเจน ช่วยให้ไม่ต้องนั่งทับก้นกบตรง ๆ
หลังจากเปลี่ยนมาใช้เบาะนี้ ทำงานหน้าคอมได้ยาวขึ้นเยอะเลยครับ ไม่รู้สึกเมื่อยเหมือนแต่ก่อน ตอนนี้วางไว้ประจำที่ทำงานกับที่บ้านเลยใครที่นั่งทำงานเกินวันละ 4-6 ชั่วโมง แล้วเริ่มรู้สึกเมื่อยหลัง ลองเริ่มจากเปลี่ยนเบาะก่อนก็ไม่เสียหายนะครับ
อย่าเพิ่งรีบโทษหลัง…บางทีมันแค่ “เบาะ” ที่เราใช้อยู่ ยังไม่เข้าใจเราก็ได้

2. ใช้วัสดุที่ระบายอากาศได้ดี

อีกปัญหาที่เคยเจอแบบไม่ทันตั้งตัว คือ “นั่งไปนาน ๆ แล้วรู้สึกอับชื้น”
โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนหรือเวลาที่เปิดแอร์ไม่พอ…นั่งแป๊บเดียว เหงื่อเริ่มซึมตรงก้นตรงหลังต้นขา
บางวันถึงขั้นต้องลุกไปเปลี่ยนกางเกงเพราะมันรู้สึกเหนอะ ๆ แบบบอกไม่ถูกตอนนั้นก็ยังงงอยู่ว่า นี่เรานั่งผิดท่าเหรอ? หรือเก้าอี้มันร้อน?จนไปเจอบทความนึงที่บอกว่า “เบาะรองนั่งที่ไม่ระบายอากาศได้ดี มันจะสะสมความร้อนใต้ก้น!”
แถมถ้าใช้เบาะโฟมหนา ๆ ที่ไม่มีระบบระบายเลย มันก็จะอบเหงื่อไว้ตรงนั้นนานขึ้นอีกหลังจากนั้นเลยเริ่มมองหาเบาะที่

เน้นเรื่องการระบายอากาศ เป็นหลัก แล้วก็มาเจอเจ้า👉 เบาะรองนั่งเจลรังผึ้ง รุ่นระบายอากาศ

ตัวนี้ใช้วัสดุเจลแบบรังผึ้ง มีช่องลมเล็ก ๆ ทั่วแผ่นเบาะ ทำให้เวลานั่งไม่ร้อน ไม่อบ และไม่ชื้นแบบเดิมอีกต่อไป
มันนั่งแล้วเย็นจริงครับ! ไม่ใช่เย็นแบบน้ำแข็งนะ แต่คือ “ไม่อับ” ไม่ชื้น ไม่เหนียวตัว
ใช้ตอนนั่งทำงาน หรือแม้แต่ขับรถนาน ๆ ก็ช่วยได้เยอะมากบอกเลยว่าถ้าใครเป็นสายเหงื่อออกง่าย นั่งแล้วรู้สึกไม่สบายตัวบริเวณหลังต้นขา ลองเปลี่ยนมาใช้เบาะที่ “หายใจได้” ดูครับแล้วคุณจะรู้ว่า…บางทีมันไม่ใช่เรื่องเหงื่อเรา แต่มันคือ “เบาะที่ไม่หายใจ” ต่างหาก

3. เลือกความหนาให้เหมาะกับเก้าอี้ของคุณ

เคยมั้ยครับ…นั่งเก้าอี้ตัวเดิม เพิ่มแค่ “เบาะรองนั่ง” เข้าไป แล้วรู้สึกว่าโต๊ะทำงานมันเตี้ยลงทันที
หรือบางครั้งพอนั่งแล้วเท้าไม่แตะพื้น ต้องนั่งเขย่ง ๆ ทั้งวัน แบบนั้นไม่โอเคเลยผมเคยเป็นคนที่คิดว่า “เบาะยิ่งหนา ยิ่งดี” เพราะคิดว่ามันจะนุ่มสบายกว่าแต่ความจริงคือ… หนาเกินไปก็ลำบากเหมือนกัน โดยเฉพาะคนที่ใช้เก้าอี้ทำงานแบบปรับระดับไม่ได้ หรือโต๊ะสูงคงที่ถ้าเบาะหนาเกินไปจะทำให้ระดับการนั่งสูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว ส่งผลให้ข้อมือวางไม่พอดีกับแป้นพิมพ์ ไหล่เริ่มยกขึ้น และสุดท้าย…ก็กลับมาปวดหลัง ปวดคออยู่ดีในทางกลับกัน ถ้าใช้เบาะบางเกินไปบนเก้าอี้แข็ง ๆ ก็เหมือนนั่งบนกระดาน นั่งนานยังไงก็ทรมาน ทางออกคือ “เลือกเบาะที่หนา พอดีตัว กับเก้าอี้ของเรา”

👉 รุ่นที่ผมลองแล้วโอเคสุด ๆ ก็คือ เบาะนุ่มเพื่อออฟฟิศ รุ่น Compact
ความหนาประมาณ 5 ซม. พอดี ไม่สูงเกินไป แต่นุ่มแน่นกำลังดี
นั่งแล้วไม่จม ไม่ลอย และยังคงระดับโต๊ะทำงานให้สมดุลเหมือนเดิมหลังจากเปลี่ยนมาใช้รุ่นนี้ รู้สึกเลยว่านั่งสบายขึ้นมาก โดยเฉพาะเวลานั่งยาว ๆ ทำงานทั้งวันข้อดีอีกอย่างคือเบาะไม่ยวบเร็ว ใช้มาเดือนกว่าแล้วยังแน่นเหมือนเดิมใครที่รู้สึกว่า “ทำไมเปลี่ยนเบาะแล้วกลับนั่งไม่สบายกว่าเดิม” ลองสังเกตความหนาดูครับบางทีมันไม่ได้ผิดที่เบาะ…แต่อาจผิดที่ หนาเกินไปสำหรับเก้าอี้ของคุณ ก็เป็นได้

4. พกพาง่าย ถอดซักได้ จะดียิ่งขึ้น

ใครที่ทำงานแบบ Work from Anywhere หรือเปลี่ยนที่นั่งทำงานบ่อย ๆ คงเข้าใจดีว่า “จะเอาเบาะไปด้วย” มันไม่ง่ายเลย…
บางทีที่ออฟฟิศมีโต๊ะให้นั่ง แต่เบาะแข็งเหมือนไม้กระดานพอจะพกเบาะตัวโปรดจากบ้านไป ก็หนักบ้าง เทอะทะบ้าง หรือไม่มีหูหิ้ว ต้องอุ้มแบบงุ่มง่ามผมเคยลองใช้เบาะสุขภาพที่นุ่มมาก แต่พอจะพกไปออฟฟิศต้องยัดใส่เป้ สุดท้ายเป้โป่งเหมือนแบกหมอนเดินตอนนั้นแอบคิดในใจว่า “ทำไมไม่มีเบาะแบบพับได้ น้ำหนักเบา ๆ บ้างนะ”จนได้มาเจอกับรุ่นนี้เลยครับ


👉 เบาะรองนั่งพับได้ รุ่นพกพา Office&Home เบาะรุ่นนี้เค้าออกแบบมาเพื่อคนที่ต้องพกพาจริงจังน้ำหนักเบามาก มี หูหิ้วในตัว แถมยังพับครึ่งได้ เก็บใส่กระเป๋าหรือถือไปประชุมก็ไม่ดูแปลกที่สำคัญคือ “ถอดปลอกซักได้” อันนี้คือจุดชนะเลิศเลยครับ เพราะใช้นาน ๆ เบาะก็ต้องเจอฝุ่น เหงื่อ หรือคราบกาแฟบ้างตั้งแต่ใช้รุ่นนี้ รู้สึกว่าการมีเบาะติดตัวไว้สักอันมันช่วยชีวิตได้เยอะเลย ไม่ว่าจะนั่งรถ นั่งร้านกาแฟ หรือไป Co-working Spaceมันเหมือนพก “ความสบายส่วนตัว” ไปทุกที่สรุปสั้น ๆ คือ ถ้าใครมีไลฟ์สไตล์ทำงานเปลี่ยนที่บ่อย หรือเป็นสายทำงานทั้งบ้านทั้งออฟฟิศ ลองจัดรุ่นนี้ดูครับจะได้ไม่ต้องทนกับเก้าอี้แข็ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าใครนั่งมาแล้วบ้าง

5. ดูรีวิวจริงก่อนตัดสินใจ

เรื่องนี้สำคัญสุด ๆ สำหรับสายช้อปออนไลน์แบบเรา ๆ เลยครับ เพราะเบาะรองนั่งมันเป็นของที่ “ต้องลองนั่ง” ถึงจะรู้ว่าดีจริงไหมแต่พอซื้อมาทางออนไลน์ เราไม่มีโอกาสลองนั่งก่อน ก็เลยต้องพึ่งสิ่งเดียวที่ใกล้เคียงที่สุด…ก็คือ “รีวิวจากผู้ใช้จริง”ผมเคยเจอมากับตัว ซื้อเบาะที่หน้าตาดีมาก ภาพในเว็บดูพรีเมียมสุด ๆ ราคาไม่ถึง 300 บาท คิดว่าเจอของดีราคาถูก
แต่พอของมาถึงจริง…เบาะบางยิ่งกว่าทิชชู่ แถมใช้ไปไม่กี่วันก็เริ่มยุบ พอครบอาทิตย์ เรียกได้ว่านั่งแล้วเหมือนนั่งบนกระดานเหมือนเดิมสุดท้ายต้องเสียเงินซื้อใหม่อีกรอบ เจ็บใจนิด ๆ เพราะ “เราลืมดูรีวิว!”จากนั้นเลยเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ครับ
ก่อนซื้อเบาะรองนั่ง หรือของที่เกี่ยวกับสุขภาพการนั่งทุกชนิด ผมจะดูรีวิวก่อนเสมอ
ไม่ใช่แค่ดูคะแนนนะครับ แต่จะอ่านคอมเมนต์ ดูรูปจริงจากผู้ซื้อ ว่าคนที่มีปัญหาคล้ายเราเค้าใช้งานแล้วรู้สึกยังไงและถ้าใครกำลังมองหาตัวที่ “รีวิวแน่น” ผมแนะนำตัวนี้เลยครับรุ่นนี้มีรีวิวจากผู้ใช้งานจริงกว่า 3,000+ รีวิว คะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 4.9 ดาว
คนที่ซื้อไปส่วนใหญ่บอกว่านั่งนุ่มจริง ไม่ยุบไว ใช้แล้วช่วยลดอาการปวดหลังได้จริงจัง
หลายคนถึงกับซื้อซ้ำอีกตัวไว้ใช้ในรถหรือที่บ้านด้วยซ้ำการอ่านรีวิวก่อนซื้อ จะช่วยให้เราประหยัดเงิน ประหยัดเวลา และได้ของที่คุ้มค่าจริง ๆเพราะสุดท้ายแล้ว…เราซื้อเบาะเพราะอยากนั่งสบาย ไม่ใช่ซื้อเพื่อมานั่งเสียใจทีหลังครับ

สรุป: อย่ามองข้าม “เบาะรองนั่ง” เพราะมันคือการลงทุนให้หลังของคุณ

เราใช้เวลาไปกับการนั่งวันละหลายชั่วโมง โดยเฉพาะคนทำงานหน้าคอม…
แต่กลับมีน้อยคนมากที่ให้ความสำคัญกับ “สิ่งที่เรานั่งอยู่” ตลอดทั้งวันเบาะรองนั่งที่ดี ไม่ใช่แค่ทำให้นั่งนุ่มขึ้น แต่คือสิ่งที่ช่วยให้เรานั่งอย่างมีสุขภาพมันคือเพื่อนร่วมงานเงียบ ๆ ที่ไม่เคยบ่น แต่คอยซัพพอร์ตเราเสมอ
รองรับหลัง รองรับก้นกบ คลายความเมื่อยล้า โดยที่เราแทบไม่รู้ตัวเพราะถ้ารอให้ร่างกายส่งสัญญาณเตือนเมื่อสายไปแล้ว อาจต้องจ่ายมากกว่าราคาของเบาะหลายเท่าไม่ว่าจะเป็นค่ายา ค่ากายภาพบำบัด หรือแม้แต่เวลาที่เสียไปกับความปวดเมื่อยไม่จบไม่สิ้นดังนั้น…ถ้าคุณนั่งทำงานนานทุกวัน ลองเริ่มจากการเปลี่ยน “เบาะรองนั่ง” สักอัน
ปรับนิดเดียว แต่ผลลัพธ์อาจช่วยให้คุณนั่งสบายขึ้นทุกวันไปอีกนาน

Comments

No comments yet. Why don’t you start the discussion?

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *