ในเมื่อแดดเมืองไทยร้อนจนแทบหลีกเลี่ยงไม่ได้และทำให้ผิวเสีย การพกสเปรย์กันแดดติดตัวจึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยความสะดวกสบายในการใช้งาน ฉีดปุ๊บ ซึมปั๊บ ไม่เหนียวเหนอะหนะ และสามารถฉีดซ้ำได้ระหว่างวัน บทความนี้ รู้เยอะ จะพาคุณไปแนะนำให้รู้จักกับ 10 สเปรย์กันแดดที่เหล่าคนรักผิวต้องมีติดกระเป๋า พร้อมรายละเอียดที่ช่วยให้คุณเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณ
สิ่งที่ควรรู้ก่อนซื้อสเปรย์กันแดด
สเปรย์กันแดด ช่วยป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ที่อยู่ในแสงแดดและถูกปล่อยออกมาจากดวงอาทิตย์ สามารถก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อผิวหนัง ส่งผลทำให้เกิดอาการผิวไหม้แดด หรือทำให้ผิวแก่ก่อนวัย และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง การป้องกันแสงแดดด้วยสเปรย์กันแดดจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาสุขภาพผิว
- ค่า SPF และ PA: เลือกสเปรย์กันแดดที่มีค่า SPF สูงกว่า 30 และค่า PA+++ หรือ PA++++ เพื่อป้องกันทั้งรังสียูวีเอและยูวีบีอย่างมีประสิทธิภาพ
- สูตรกันน้ำและเหงื่อ: สำหรับผู้ที่มีกิจกรรมกลางแจ้งหรือเล่นกีฬาควรเลือกสูตรกันน้ำเพื่อการปกป้องที่ยาวนานขึ้น
- ความเหมาะสมกับสภาพผิว: หากคุณมีผิวแพ้ง่าย ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ และพาราเบน
- เนื้อสัมผัส: เลือกสเปรย์ที่บางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ เพื่อความสบายระหว่างวัน และควรลองก่อนซื้อเพื่อดูว่าผิวของคุณตอบสนองอย่างไร
- วัตถุดิบจากธรรมชาติ: หากคุณใส่ใจสิ่งแวดล้อม ควรมองหาสเปรย์กันแดดออร์แกนิกหรือสูตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- ขนาดและการพกพา: เลือกขนาดที่เหมาะสมกับการพกพาในชีวิตประจำวัน เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน
ข้อดีและข้อเสียของการใช้สเปรย์กันแดด
ข้อดี:
- ใช้งานสะดวก: สเปรย์กันแดดใช้งานง่าย เพียงฉีดลงบนผิว ไม่ต้องใช้มือเกลี่ยเหมือนครีมกันแดด
- ซึมซับไว: เนื้อสเปรย์บางเบา ซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่ทิ้งคราบขาว
- ฉีดซ้ำระหว่างวัน: สามารถฉีดเพิ่มเติมระหว่างวันได้ง่ายโดยไม่ต้องเช็ดหรือล้างผิวก่อน
- เข้าถึงจุดที่มือเอื้อมไม่ถึง: เช่น บริเวณหลังหรือกลางหลัง ทำให้การทากันแดดครอบคลุมมากขึ้น
- ไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะ: เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบความรู้สึกหนักผิวจากการใช้ครีมกันแดด
ข้อเสีย:
- อาจไม่ครอบคลุมเท่าครีมกันแดด: หากฉีดไม่ทั่วถึง อาจทำให้บางพื้นที่ไม่ได้รับการปกป้อง
- เสี่ยงต่อการสูดดม: เมื่อฉีดสเปรย์ อาจมีโอกาสสูดดมละอองเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ
- หมดเร็วกว่าแบบครีม: เนื่องจากลักษณะการใช้งานที่ฉีดกระจาย สเปรย์กันแดดจึงมีโอกาสหมดเร็วกว่าครีม
- บางสูตรอาจมีแอลกอฮอล์: ทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคือง โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแห้งหรือแพ้ง่าย
- ฉีดกลางแจ้งในที่ลมแรงอาจไม่สะดวก: ละอองสเปรย์อาจปลิวไปในอากาศแทน
1. Anessa Perfect UV Sunscreen Spray
พูดถึงกันแดดจะขาดชื่อ Anessa ไปไม่ได้ กับสเปรย์กันแดดที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Aqua Booster EX ที่ช่วยเพิ่มการปกป้องเมื่อเจอน้ำหรือเหงื่อ เหมาะสำหรับสายลุยที่ชอบกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น เล่นกีฬา หรือเที่ยวทะเล อีกทั้งยังบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ
- จุดเด่น: SPF50+ PA++++, สูตรกันน้ำ, เนื้อบางเบา
- เหมาะกับ: ทุกสภาพผิว โดยเฉพาะคนที่ต้องการการปกป้องแบบจัดเต็มกลางแจ้ง
2. Biore UV Aqua Rich Watery Spray
สเปรย์กันแดดสุดฮิตจาก Biore ด้วยเนื้อสัมผัสบางเบาสไตล์น้ำ ซึมไว ไม่ทิ้งคราบขาว แถมยังมีไฮยาลูรอนิคช่วยเติมความชุ่มชื้น ใช้งานง่าย ฉีดซ้ำระหว่างวันได้สะดวก
- จุดเด่น: SPF50+ PA++++, สูตรน้ำ, เติมความชุ่มชื้น
- เหมาะกับ: คนที่ต้องการความสดชื่นระหว่างวัน และไม่ชอบความเหนอะหนะ
3. La Roche-Posay Anthelios Invisible Mist
สำหรับผิวแพ้ง่าย La Roche-Posay เป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยสูตรอ่อนโยน ปราศจากน้ำหอมและพาราเบน ปกป้องผิวจากรังสียูวี พร้อมฟินิชแบบแมตต์ เหมาะกับการใช้ในเมืองที่ต้องเจอทั้งแดดและมลภาวะ
- จุดเด่น: SPF50+ PA++++, สูตรอ่อนโยน, ฟินิชแมตต์
- เหมาะกับ: ผิวแพ้ง่าย และคนที่ต้องการปกป้องจากแสงแดดในชีวิตประจำวัน
4. Nivea Sun Protect & Refresh Cooling Mist
สายชอบความเย็นต้องลอง Nivea Sun Protect & Refresh Cooling Mist ที่ให้ความเย็นสดชื่นทุกครั้งที่ฉีด พร้อมเนื้อสเปรย์โปร่งใส กันน้ำและไม่เหนียวเหนอะหนะ
- จุดเด่น: SPF50+ PA++++, สูตรเย็น, กันน้ำ
- เหมาะกับ: วันที่อากาศร้อน และกิจกรรมกลางแจ้ง
5. Shiseido Ultimate Sun Protection Spray
Shiseido มาพร้อมเทคโนโลยี WetForce ที่ช่วยเพิ่มการปกป้องเมื่อเจอเหงื่อหรือสัมผัสน้ำ สูตรนี้ใช้งานได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย เนื้อสเปรย์บางเบา ไม่หนักผิว
- จุดเด่น: SPF50+ PA++++, เทคโนโลยี WetForce, ใช้ได้ทั้งหน้าและตัว
- เหมาะกับ: คนที่มีกิจกรรมทางน้ำหรือต้องเผชิญแดดแรง
6. Banana Boat Ultra Mist Sport Sunscreen
สายสปอร์ตต้องมีติดตัว! Banana Boat Ultra Mist Sport Sunscreen ออกแบบมาสำหรับคนที่ชอบเล่นกีฬา กันน้ำ กันเหงื่อ ทนนาน ไม่หลุดง่าย ใช้งานสะดวกแม้ในสถานการณ์เร่งด่วน
- จุดเด่น: SPF50+ PA++++, สูตรกันน้ำและเหงื่อ, ใช้งานง่าย
- เหมาะกับ: นักกีฬา และคนที่ชอบกิจกรรมกลางแจ้ง
7. Vichy Capital Soleil Invisible Hydrating Mist
Vichy นำเสนอสเปรย์กันแดดที่นอกจากจะปกป้องผิวจากแสงแดดแล้วยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เนื้อสัมผัสโปร่งใส ซึมง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ
- จุดเด่น: SPF50+ PA++++, เติมความชุ่มชื้น, เนื้อโปร่งใส
- เหมาะกับ: คนที่ต้องการทั้งกันแดดและการบำรุงผิว
8. Coola Organic Sunscreen Spray
Coola เอาใจคนรักธรรมชาติด้วยสเปรย์กันแดดออร์แกนิก ปราศจากสารเคมีอันตราย พร้อมกลิ่นหอมสดชื่นจากธรรมชาติ เช่น มะพร้าวหรือแตงโม เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว
- จุดเด่น: SPF50+ PA++++, สูตรออร์แกนิก, กลิ่นหอมธรรมชาติ
- เหมาะกับ: คนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และต้องการผลิตภัณฑ์ปลอดภัย
9. Mistine Aqua Base Sunscreen Spray
แบรนด์ไทยคุณภาพ Mistine Aqua Base Sunscreen Spray มาพร้อมราคาย่อมเยา ใช้งานง่าย ซึมไว และให้การปกป้องจากรังสียูวีอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับการใช้งานประจำวัน
- จุดเด่น: SPF50+ PA++++, ราคาย่อมเยา, ซึมไว
- เหมาะกับ: การใช้งานในชีวิตประจำวัน
10. Supergoop! Play Antioxidant Body Mist
Supergoop! เน้นเรื่องการปกป้องผิวจากรังสียูวีและมลภาวะ ด้วยส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ พร้อมสูตรกันน้ำและเหงื่อ เหมาะสำหรับทุกไลฟ์สไตล์
- จุดเด่น: SPF50+ PA++++, สารต้านอนุมูลอิสระ, กันน้ำ
- เหมาะกับ: คนที่ต้องการกันแดดแบบครบจบในตัวเดียว
บทสรุป
การเลือกสเปรย์กันแดดที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์เป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องผิวจากแสงแดดที่เป็นอันตราย สเปรย์กันแดดทั้ง 10 แบรนด์ที่เราคัดสรรมานี้ มีความหลากหลายทั้งในด้านประสิทธิภาพ การใช้งาน และราคาที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นสายลุยหรือสายชิล ก็สามารถเลือกสเปรย์กันแดดที่ตอบโจทย์ได้อย่างมั่นใจ อย่าลืมพกสเปรย์กันแดดติดกระเป๋าไว้อยู่เสมอเพื่อสุขภาพผิวที่ดีในระยะยาว!